คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

ของผู้สมัครงานและพนักงาน

ตามที่บริษัทโฮยา ออปติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เป็นต้นไปนั้น  บริษัทตระหนักและให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานและพนักงานและเพื่อกำกับดูแลงานในความรับผิดชอบอันเกี่ยวเนื่องกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานและพนักงานให้ดำเนินไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ถูกต้องตามจริยธรรมในการปฎิบัติงานขององค์กร และเพื่อให้ผู้สมัครงานและพนักงานทำความเข้าใจประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นำไปปฎิบัติได้อย่างถูกต้อง รวมไปถึงการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความปลอดภัย  

บริษัทจึงออกคำประกาศความเป็นส่วนตัว(Privacy Notice) ของผู้สมัครงานและพนักงาน ดังนี้

1.คำนิยาม

  • ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ โดยแบ่งประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
    • ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด เพศ อีเมล เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่อาจจะระบุตัวตนของบุคคลได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
    • ข้อมูลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนและมีความสุ่มเสี่ยงต่อการ ถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมซึ่งได้รับคุ้มครองเป็นพิเศษแตกต่างจากข้อมูลส่วนบุคคลแบบทั่วไป ได้แก่ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
    • ผู้สมัครงาน หมายถึง ผู้สมัครงานเพื่อเป็นพนักงานทดลองงาน พนักงานประจำ และพนักงานชั่วคราวที่ทำงานให้แก่บริษัท แล้วแต่กรณี ไม่ว่าการสมัครงานนั้นจะดำเนินการโดยผู้สมัครเอง หรือเป็นการรับสมัครงานภายในบริษัทฯ หรือผ่านการแนะนำของบุคคลอื่นใด หรือผ่านการดำเนินการของผู้ให้บริการจัดหางาน

1.1.4       พนักงาน หมายถึง ผู้ซึ่งตกลงทำงานให้กับบริษัทฯ โดยได้รับค่าจ้างไม่ว่าจะเรียกชื่อว่าอย่างไร

2. วัตถุประสงค์

เพื่อให้การทำธุรกรรมของบริษัทฯ มีความมั่นคงปลอดภัย น่าเชื่อถือ และมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายประกาศกำหนด

3. การบังคับใช้

บังคับใช้กับผู้สมัครงานและพนักงาน ที่ปรึกษาของบริษัทฯ บุคคลที่เคยเป็นพนักงานของบริษัทฯ และบุคคลอื่นๆ (เช่น ผู้อ้างอิง และผู้ที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน ผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น) ที่บริษัทได้ข้อมูลส่วนตัวมา

4. การจัดเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด

บริษัทฯ มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานและพนักงานด้วยวิธีการตามกฎหมายและเป็นธรรม โดยบริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็นสำหรับการให้บริการธุรกรรมตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัทฯ และตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น กรณีนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯกำหนด บริษัทฯ จะขอความยินยอมด้วยวิธีการของบริษัทฯ ที่กำหนดไว้ หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใด ก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด และหรือในกรณีตามที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้ โดยบริษัทฯ จะรักษาข้อมูลเหล่านั้นไว้เป็นความลับ  บริษัทขอสงวนสิทธิในการแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว ดังนั้น โปรดตรวจสอบเป็นประจำว่านโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้รับการแก้ไขครั้งล่าสุดเมื่อใด การเปลี่ยนแปลงใดๆ จะมีผลทันทีเมื่อบริษัทเผยแพร่นโยบายความเป็นส่วนตัวที่แก้ไขดังกล่าว บริษัทจะแจ้งให้ทราบหากมีการแก้ไขหรือปรับปรุงที่มีนัยสำคัญ ส่วนกรณีเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่เป็นการลิดรอนสิทธิในส่วนของข้อมูลที่ละเอียดอ่อนตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บริษัทจะดำเนินการเพื่อขอความยินยอมก่อน เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดเป็นอย่างอื่น

4.1. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลใดที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัทฯ อาจรวบรวมหรือรับข้อมูลประเภทต่อไปนี้ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลในระหว่างการสรรหาและขั้นตอนการสัมภาษณ์งานซึ่งอาจส่งมอบเป็นส่วนหนึ่งของใบสมัครในรูปแบบเอกสาร  และ/ หรือ ออนไลน์และ / หรือผ่านช่องทางอื่น ๆ (เช่น บอร์ดสมัครงาน ผ่านบริษัทรับจัดหางาน สื่อโซเชียล งานนัดพบแรงงาน เป็นต้น) บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นๆ หรือผ่านมาทางบริษัทในเครือ ประเภทของข้อมูลที่รวบรวมจะขึ้นอยู่กับลักษณะการจ้างงานกับบริษัท

4.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

1) รายละเอียดส่วนบุคคล: เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อเต็ม สถานภาพทางการสมรส วันที่และสถานที่เกิด อายุ เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก การรับราชการทหาร ภาพถ่าย สัญชาติ ข้อมูลเกี่ยวกับบัตรที่ออกให้โดยทางราชการ (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตทำงาน ใบขับขี่และใบอนุญาตอื่นๆ) บัญชีธนาคาร และสิ่งที่ระบุตัวตนอื่นๆ

2) ข้อมูลการติดต่อสื่อสาร: เช่น หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หมายเลขโทรศัพท์บ้าน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่อีเมล์ ข้อมูลในทะเบียนบ้าน ข้อมูลผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉินและข้อมูลอื่นๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน

3) ข้อมูลเกี่ยวกับงาน: เช่น ประสบการณ์การทำงานและการจ้างงานก่อนหน้า (ซึ่งรวมถึงตำแหน่ง แผนกและประวัติตำแหน่งและเงินเดือนและผลประโยชน์จากการจ้างงานก่อนหน้า) พฤติกรรมการทำงาน ผลการปฏิบัติงาน ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรม ใบรับรองและคุณสมบัติต่างๆ

4.1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยและ/หรือ ถ่ายโอนข้อมูลที่มีความอ่อนไหวก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมอย่างชัดเจน เพื่อปฏิบัติตามสัญญาจ้าง สร้างสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย นำมาต่อสู้ ทำตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทำหน้าที่ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะที่สำคัญตามกฎหมาย หรือเรื่องอื่นๆ ที่กฎหมายกำหนดไว้ ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวมีดังต่อไปนี้

1.1 ข้อมูลทางชีวภาพ เช่น ลายนิ้วมือ เป็นต้น

1.2 ข้อมูลสุขภาพ เช่น ข้อมูลที่ปรากฏในใบรับรองแพทย์ รายงานสุขภาพประจำปี เป็นต้น

1.3 ข้อมูลความสมบูรณ์ของสภาพร่างกาย / ความพิการ

1.4 ข้อมูลที่แสดงอยู่ในเอกสารแสดงตัวตนที่ออกให้โดยหน่วยงานราชการ เช่น ศาสนา เชื้อชาติ

      กรุ๊ปเลือด เป็นต้น

หากผู้สมัครงานและพนักงานให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัว ญาติใกล้ชิด ผู้อ้างอิง และ / หรือผู้มีความสัมพันธ์อื่นๆ ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ผู้สมัครงานและพนักงานมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งสิทธิที่มีตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ และต้องรับผิดชอบในการขอความยินยอมที่จำเป็นจากบุคคลเหล่านั้นและทำให้มั่นใจว่าผู้สมัครงานและพนักงานมีสิทธิที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านั้นกับบริษัท

5.วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและฐานทางกฎหมาย

บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ขึ้นอยู่กับความเกี่ยวข้องระหว่างผู้สมัครงานและพนักงานกับบริษัท ประโยชน์ที่ได้รับจากบริษัท รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับผู้สมัครงานและพนักงาน และ/หรือ สิ่งที่ต้องพิจารณาอื่นๆ ต่อไปนี้

5.1 วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

วัตถุประสงค์ต่อไปนี้ เป็นแนวทางที่บริษัทจะใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานและพนักงานเท่านั้น

ขั้นตอน

วัตถุประสงค์

ก่อนการว่าจ้าง

–      เพื่อการสรรหาบุคคลากรที่เหมาะสม เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจจ้างงาน

–      เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับใบสมัครงาน การสัมภาษณ์ การพิจารณาคุณสมบัติตามรายละเอียดในใบสมัครงาน ความเหมาะสม คุณสมบัติและประสิทธิภาพการทำงาน

–      เพื่อประโยชน์ในการติดต่อสื่อสาร เพื่อการนัดหมายสัมภาษณ์งาน

–      เพื่ออนุมัติการว่าจ้างพนักงาน

การจ้างงานและ การรับเข้าทำงาน

–      เพื่อดำเนินกระบวนการรับเข้าทำงาน การเซ็นชื่อในสัญญาจ้างงาน การกำหนดรายละเอียดการจ้างงาน การติดต่อและคนที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน

 

–      เพื่อทำบัตรพนักงาน ,  username password ในการเข้าถึงระบบต่างๆ ของบริษัทฯ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำงาน

การจ่ายเงินเดือน  และสิทธิประโยชน์

–      เพื่อการบริหารจัดการการจ่ายเงินเดือน รายการได้/รายการหัก

 

–      เพื่อการออกหนังสือรับรอง การออกเอกสารยืนยันการจ่ายเงิน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินชดเชย ผลตอบแทน และรางวัลต่างๆ

 

–      เพื่อหักภาษีและเงินนำส่งทั้งตามกฎหมายและโดยสมัครใจ

 

–      เพื่อจัดสรรการลาหยุดตามระเบียบของบริษัท

 

–      เพื่อรับประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ

ขั้นตอน

วัตถุประสงค์

 

–      เพื่อกำหนดหนดเป้าหมายในการทำงาน  ประเมินผลการทำงานและความสามารถในการทำงาน การเลื่อนตำแหน่ง การปรับเงินเดือน การพิจารณาค่าตอบแทนพิเศษ  และการสืบทอดตำแหน่ง

–      เพื่อขอรับและได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี และสวัสดิการต่างๆ

 

 

การจัดการภายในองค์กรและการรักษาความสัมพันธ์

–      เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล กำกับ ดูแล อำนวยความสะดวก เช่น จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์

–      เพื่อติดตามข้อร้องเรียน

–       เพื่อบริหารจัดการผู้ติดต่อของพนักงาน

–      เพื่อเก็บรักษาและปรับปรุงข้อมูลและบันทึกต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นปัจจุบัน

–      เพื่อเก็บรักษาข้อมูลให้ถูกต้องและสมบูรณ์

–      เพื่ออบรม พัฒนา และการสอบวัดความรู้ของพนักงาน

–      เพื่อตรวจสอบ สืบสวนสอบสวนพฤติกรรมทุจริต หรือขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ และ/หรือข้อบังคับการทำงาน  การพิจารณาลงโทษทางวินัย

การยุติการทำงาน

–      เพื่อทำเรื่องออกจากงาน การยุติ / การเลิกจ้างงาน การสัมภาษณ์ก่อนออกจากงาน การออกหนังสือรับรองการทำงาน

การทำหน้าที่ตามกฎหมาย และการกำกับดูแล

–      เพื่อรับผิดชอบภาระหน้าที่ตามกฎหมาย ขั้นตอนทางกฎหมาย หรือคำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐ คำสั่งจากเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่นอกประเทศไทย และ/หรือ การให้ความร่วมมือกับศาล หน่วยงานผู้กำกับดูแล เจ้าหน้าที่รัฐ และหน่วยงานทางกฎหมาย เมื่อบริษัทมีเหตุผลที่ต้องทำตามกฎหมาย และเมื่อบริษัทจำเป็นที่ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อทำตามกฎหมาย ขั้นตอนทางกฎหมาย คำสั่งของรัฐ หลักความประพฤติที่เหมาะสม และนโยบายภายในของบริษัท

–      เพื่อใช้สิทธิของบริษัทหรือนำมาเป็นข้อต่อสู้เมื่อมีข้อเรียกร้องทางกฎหมาย

–      เพื่อเก็บรักษาบันทึกต่างๆ และแก้ไขตามข้อร้องเรียนและข้อโต้แย้งต่างๆ

การติดตามตรวจสอบเกี่ยวกับความปลอดภัยและการดูแลระบบ

–      เพื่อยืนยันตัวตน ควบคุมการเข้าถึงระบบและบันทึกที่เกี่ยวข้อง

–      เพื่อติดตามระบบ เครื่องมือและอินเทอร์เน็ต ตรวจทานให้มั่นใจว่าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมั่นคงปลอดภัย

–      เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาอาชญากรรม การบริหารจัดการความเสี่ยงและการป้องกันการฉ้อโกง

 

5.2. หลักการที่บริษัทฯอาจใช้อ้างอิงและหลักการทางกฎหมายอื่นๆ เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทใช้หลักการดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวตามความเหมาะสม ได้แก่

หลักการเบื้องต้นทางกฎหมาย

รายละเอียด

สัญญา (Contract)

เพื่อให้บริษัทสามารถทำสิ่งที่จำเป็นสำหรับการบรรลุวัตถุประสงค์ในการทำสัญญา และ/หรือ เพื่อให้สิทธิประโยชน์ตามสัญญา

หน้าที่ตามกฎหมาย (lawful basis)

เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติภาระหน้าที่ตามกฎหมาย

ประโยชน์อันชอบธรรม (legitimate interest)

การกระทำเพื่อผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล  (protecting or preventing danger)

เพื่อป้องกันหรือยับยั้งสิ่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

ความยินยอม (Consent)

เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเมื่อได้รับความยินยอม

 

6. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหว

6.1 ผู้สมัครและพนักงานรับทราบว่าภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อการดำเนินการตามกิจกรรมการรับสมัครงาน สัญญาจ้างแรงงาน สัญญาจ้างแรงงานแบบมีระยะเวลา และสัญญาว่าจ้างอื่นใด (“สัญญา”) บริษัทฯ สามารถจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของผู้สมัครและพนักงานได้(“ประมวลผล”) บริษัทฯ จำเป็นต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครและพนักงานอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเพียงพอเพื่อดำเนินกิจกรรมการรับสมัครงาน การปฏิบัติตามสัญญากฎเกณฑ์ ระเบียบภายใน และ/หรือข้อกำหนดการดำเนินงานของบริษัทฯ  และ/หรือการดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากบริษัทฯไม่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครและพนักงานที่ถูกต้องครบถ้วนและเพียงพอ อาจส่งผลให้การดำเนินการใด ๆ ตามข้อตกลง หรือข้อกำหนดระหว่างบริษัทฯ และผู้สมัครและพนักงานเกิดความล่าช้าหรือความไม่สะดวกขึ้น และในกรณีจำเป็นซึ่งเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาหรือตามกฎหมาย บริษัทฯ อาจต้องปฏิเสธการดำเนินการตามข้อผูกพันใด ๆ ที่บริษัทมีต่อผู้สมัครหรือพนักงานแล้วแต่กรณี อย่างไรก็ตามบริษัทฯ เคารพต่อสิทธิส่วนบุคคลและจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของผู้สมัครและพนักงานเท่าที่จำเป็นและภายใต้วัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมายโดยกิจกรรรมที่บริษัทฯดำเนินการและฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของผู้สมัครและพนักงานตามตารางนี้

 

    หมวดของการดำเนินงาน

 

        ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล

 

หลักเกณฑ์ที่ชอบด้วยกฎหมายสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

การบริหารจัดการด้านการสมัครงานและจ้างงาน

• ใบสมัครงาน และเอกสารประกอบการสมัครงาน

• ข้อมูลส่วนบุคคล

• การสัมภาษณ์งาน การตรวจสอบประวัติการศึกษาหรือประวัติการทำงานย้อนหลังจากแหล่งข้อมูลอื่น

• การวิเคราะห์ข้อมูล การเปรียบเทียบ การคัดเลือก

 

• การตรวจสุขภาพก่อนจ้างงาน

• ข้อมูลความสมบูรณ์ของร่างกาย / ความพิการ

• ข้อมูลสุขภาพ

• ข้อมูลบิดา มารดา คู่สมรส บุตร

• การทดสอบเพื่อคัดเลือกพนักงานใหม่

• สัญญาจ้างงาน

• ความยินยอม (Consent)

• สัญญา (Contract)

• ประโยชน์อันชอบธรรม (legitimate interest)

• สัญญา/ประโยชน์อันชอบธรรม (Contract/legitimate interest)

• ความยินยอม (Consent)

• ความยินยอม (Consent)

• สัญญา (Contract)

• สัญญา/ประโยชน์อันชอบธรรม (Contract/legitimate interest)

• สัญญา (Contract)

การบริหารจัดการเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฎิบัติงานของพนักงาน และการจัดเก็บ รักษา บริหารจัดการข้อมูลพนักงาน

 

 

 

• การบันทึกขึ้นทะเบียนพนักงานในระบบ

• การเก็บข้อมูลทางชีวภาพ เช่น ลายนิ้วมือ

 

 

• การจัดเตรียมบัตรพนักงาน

• การจัดเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์  อีเมล Username Password สำหรับการเข้าระบบต่างๆ ที่จำเป็น

• การให้ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบจาก Audit

 

 

• สัญญา (Contract)

• สัญญา / หน้าที่ตามกฎหมาย/ประโยชน์อันชอบธรรม  (Contract /lawful basis/legitimate interest)

• สัญญา (Contract)

• สัญญา (Contract)

 

• สัญญา/ประโยชน์อันชอบธรรม/ หน้าที่ตามกฎหมาย (Contract/legitimate interest/lawful basis)

การบริหารจัดการด้านการฝึกอบรมและ

การประเมินผลงาน

• ประวัติการฝึกอบรม

 

• ประวัติการประเมินผลการปฏิบัติงาน

 

• การฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติงาน

 

• การทดสอบวัดความรู้ในด้านต่างๆ สำหรับพนักงาน

 

 

• สัญญา/ประโยชน์อันชอบธรรม (Contract/legitimate interest)

• สัญญา/ประโยชน์อันชอบธรรม (Contract/legitimate interest)

• สัญญา/ประโยชน์อันชอบธรรม (Contract/legitimate interest)

• สัญญา/ประโยชน์อันชอบธรรม (Contract/legitimate interest)

 

 

    หมวดของการดำเนินงาน

 

        ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล

 

หลักเกณฑ์ที่ชอบด้วยกฎหมายสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

 

• การกำหนดเป้าหมายในการทำงาน การประเมินผลการทำงานของพนักงาน การพิจารณาปรับตำแหน่ง ปรับเงินเดือน และการพิจารณาเรื่องโบนัส

• สัญญา/ประโยชน์อันชอบธรรม (Contract/legitimate interest)

 

การบริหารจัดการงานเรื่องข้อร้องเรียน ข้อพิพาท และคดีความ และการบริหารความเสี่ยง

• ประวัติการลงโทษทางวินัย

 

 

• การตรวจสอบ สืบสวน สอบสวนพฤติกรรมพนักงาน ที่ขัดต่อกฎหมาย กฎระเบียบ และ/หรือ ข้อบังคับการทำงานของบริษัท การพิจารณาและลงโทษทางวินัย

 

• การดำเนินการใดๆ เพื่อตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน ดำเนินคดี หรือดำเนินมาตรการใดๆ เพื่อใช้สิทธิตามสัญญาและตามกฎหมาย

 

• การส่งรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตของพนักงานให้แก่หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานที่มีอำนาจตามที่กฎหมายกำหนด เช่นตำรวจ คปภ. ปปง. สรรพากร บังคับคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น

• สัญญา / หน้าที่ตามกฎหมาย/ประโยชน์อันชอบธรรม  (Contract /lawful basis/legitimate interest)

• สัญญา / หน้าที่ตามกฎหมาย/ประโยชน์อันชอบธรรม  (Contract /lawful basis/legitimate interest)

 

• สัญญา / หน้าที่ตามกฎหมาย/ประโยชน์อันชอบธรรม  (Contract /lawful basis/legitimate interest)

 

• หน้าที่ตามกฎหมาย/ประโยชน์อันชอบธรรม  (lawful basis/legitimate interest)

การบริหารจัดการเมื่อสิ้นสุดสัญญาจ้าง

• ประวัติพนักงานลาออก

• หนังสือเลิกจ้างพนักงาน

• หนังสือลาออกพนักงาน

 

• การส่งข้อมูลการพ้นสภาพให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานประกันสังคม  กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทประกันภัย เป็นต้น

• สัญญา (Contract)

• สัญญา (Contract)

• สัญญา / หน้าที่ตามกฎหมาย (Contract /lawful basis)

• สัญญา / หน้าที่ตามกฎหมาย (Contract /lawful basis)

6.2 บริษัทฯกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหวเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ดัดแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหวโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท

6.3 หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลง และ/หรือเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เป็นการดำเนินการเพื่อให้ปฏิบัติสัญญาหรือเป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น บริษัทฯจะแจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ที่ได้เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมให้ทราบผ่านทางระบบของบริษัทฯ และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ บริษัทฯอาจขอความยินยอมก่อนการดำเนินการหรือทำกิจกรรมใด ๆตามวัตถุประสงค์ใหม่นั้น (หากกฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอม)

7.การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด

7.1 ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหว บริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมและอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้เท่านั้น

7.2 นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ บริษัทฯจะขอความยินยอมก่อนทำการประมวลผล เว้นแต่

(1) เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด

(2) เป็นไปเพื่อประโยชน์ และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

(3) เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิตสุขภาพ หรือความปลอดภัย

(4) เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล

(5) เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย หรือการจัดทำสถิติ

7.3 บริษัทฯมีความจำเป็นในการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหว เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการดำเนินการตามสัญญาและสัญญาหรือข้อตกลงอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดังกล่าว แต่ทั้งนี้ บริษัทฯจะไม่จัดเก็บข้อมูลที่อาจเป็นผลร้าย ทำให้นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้สมัครและพนักงาน เสียชื่อเสียง หรืออาจก่อให้เกิดความรู้สึกเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมหรือความไม่เท่าเทียมกันแก่บุคคลใด เว้นแต่

(1) ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือ

(2) เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด

(3) เป็นไปเพื่อประโยชน์ และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

(4) เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัย

(5) เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล

(6) เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ

7.4 บริษัทฯอาจเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาจากแหล่งอื่นเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นเท่านั้น และอาจขอความยินยอม (กรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอม) ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ข้างต้น และเพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของการดำเนินงานของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น

8.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวให้กับบุคคลภายนอก ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานตามกฎหมาย

เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมการสมัครงาน ดำเนินการตามสัญญา และ/หรือข้อตกลงอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดังกล่าวที่กำหนดไว้ข้างต้น บริษัทฯอาจส่ง โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและหรือข้อมูลอ่อนไหวของพนักงานให้กับบริษัทในเครือโฮยาทั้งในและต่างประเทศ ผู้ประมวลผลข้อมูล นิติบุคคลหรือบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องตามสัญญา หรือคู่ค้าหรือพันธมิตรทางการค้า และธุรกิจ หรือผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลภายนอก เช่น ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายในและผู้ตรวจสอบภายนอกของบริษัท ที่ปรึกษากฎหมาย และทนายความ ผู้ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น ตามความจำเป็นและเหมาะสม หรือดำเนินการตามกฎหมาย

 

9.การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

9.1 กรณีผู้สมัครงานหรือพนักงานประสงค์จะใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ สามารถส่งคำร้องขอเข้ามาที่อีเมล DPO.HOPT@hoya.com  เมื่อบริษัทฯได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว บริษัทฯจะดำเนินการบันทึกคำร้องขอ ตรวจสอบและตอบกลับคำร้องภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯได้รับคําขอ

9.2 หากเห็นว่า ข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหวใดที่เกี่ยวกับตนไม่ถูกต้องตามที่เป็นจริง สามารถแจ้งบริษัทเพื่อให้แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหวนั้นได้ ทั้งนี้ กรณีบริษัทมีเหตุให้ปฏิเสธคำร้องขอ บริษัทจะจัดทำบันทึกการปฏิเสธคำขอหรือการคัดค้านพร้อมด้วยเหตุผลไว้เป็นหลักฐานด้วย

9.3 ผู้สมัครงานหรือพนักงานมีสิทธิตรวจดูความมีอยู่ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหว วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้ นอกจากนี้ ยังมีสิทธิดังต่อไปนี้

(1) ขอสำเนา หรือขอสำเนารับรองถูกต้องเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหว ของตน

(2) ขอแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวของตนให้ถูกต้องสมบูรณ์

(3) โต้แย้งหรือขอระงับการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวที่เกี่ยวกับตน

(4) ขอให้ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวที่เกี่ยวกับตน

(5) ขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวที่เกี่ยวกับตนในกรณีที่เป็นข้อมูลซึ่งไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวมหรือจัดเก็บ

(6) ขอยกเลิกการให้ความยินยอมใดๆ

(7) ขอโอนย้ายข้อมูลไปที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

(8) ร้องเรียนกรณีบริษัท หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลไม่ปฎิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลข้อควรระวัง หากเป็นกรณีกิจกรรมที่บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวตามฐานสัญญา หรือฐานประโยชน์อันชอบธรรม หรือฐานหน้าที่ตามกฎหมาย บริษัทฯมีสิทธิปฏิเสธการใช้สิทธิตาม (3) และ(4) ได้กรณีการประมวลผลด้วยฐานความยินยอมที่เกี่ยวกับสัญญา และกรณีการเก็บและใช้ข้อมูลอ่อนไหวเพื่อการปฎิบัติตามสัญญา หากผู้สมัครและพนักงานได้ใช้สิทธิตามข้อ (3) (4) และ (6) บริษัทฯ จะไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ตามสัญญาได้ ซึ่งจะมีผลนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้สมัครและพนักงาน ทำให้สัญญากับพนักงานต้องสิ้นสุดลง และ/หรือไม่สามารถจัดสรรสิทธิประโยชน์และสวัสดิการบางประเภทให้แก่พนักงานได้

10.ระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีสิทธิประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลแก่ผู้ประมวลผลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย แล้วแต่กรณี โดยมีกำหนดระยะเวลา 1 ปีนับแต่วันสมัครงาน (สำหรับผู้สมัคร) และมีกำหนดระยะเวลา10 ปีนับแต่วันที่สัญญาสิ้นสุดลง (สำหรับพนักงาน)

11.การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการทำงานของบริษัท และข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นจากท่าน บริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจนก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ บริษัทอาจส่งประกาศแจ้งเตือนให้ทราบโดยตรง หรือผ่านช่องทางอื่นของบริษัท โดยสามารถตรวจสอบนโยบายส่วนบุคคลนี้ได้ที่ช่องทางต่างๆ ของบริษัท

12.ช่องทางการติดต่อ

ผู้สมัครงานและพนักงานสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้ตามช่องทาง

DPO.HOPT@hoya.com